SteamCritique
Quiz
🌐 TH
DEATH STRANDING DIRECTOR'S CUTDEATH STRANDING DIRECTOR'S CUT

อีกหนึ่งเกมคุณภาพซึ่งเปรียบเสมือนลายเซ็นของ'โคจิม่า' ที่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน

*หมายเหตุ - ผมเล่นภาคหลักจน 100% ไปแล้ว เกมเพลย์อ้างอิงตัว Original ในขณะที่คอนเทนด์ใหม่ซึ่งเพิ่มมาอ้างอิงเวอร์ชั่น PS5 นะครับ ** ถ้าคุณเล่นตัว Original แล้วต้องการโอนเซฟมาเล่นต่อ ให้เข้าไปในเกม (Original) เลือกเมนูส่วน Cuff link จะมีหัวข้อให้ Export Save จากนั้นเข้าภาค Director's cut เลือกโหลดเกมได้เลยตามปกติ *** สำหรับสายเก็บ Achievement ถ้าคุณเก็บตัวหลักครบหมด พอมาโหลดเข้าตัวภาคนี้ Achievement จะปลดให้คุณ 59/63 คุณแค่ต้องมาทำเพิ่มราวๆ 3 อย่างซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับการสร้างสิ่งก่อสร้างและของเล่นใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาให้ครบ https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2786929562 Death Stranding เป็นเกมที่มี "เอกลักษณ์" เฉพาะตัวที่สูงมาก จนบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเกมที่ค่อนข้างแปลก ซึ่งก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันคือผลงานของ "โคจิม่า" ที่ชอบรังสรรค์ผลงานเกมด้วยไอเดียที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ซึ่งเกมนี้ก็เปรียบเสมือนลายเซ็นเฉพาะตัวของเขาอย่างชัดเจน แต่เมื่อมันเป็นเกมแน่นอนว่าความเฉพาะตัวที่ค่อนข้างจะสูงของเกมนี้และด้วยแนวเกมที่แทบจะเรียกว่า "เป็นแนวใหม่" ทำให้ผู้เล่นที่จะเข้าถึงมันนั้นถูกจำกัดด้วยลักษณะของสิ่งที่เกมนำเสนอตัวเอง (แน่นอนว่ามันเป็นความติสของโคจิม่าก็ส่วนหนึ่ง) ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่า Death Stranding อาจจะไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน แต่ถ้ามันใช่สำหรับคุณ ผมรับรองว่าคุณจะวางมันไม่ลงเลยทีเดียว แต่กว่าจะรู้ว่าเกมนี้มันใช่สำหรับคุณมั้ย หากคุณไม่ได้มีพลังศรัทธาในโคจิม่าเลยแบบผม มันอาจจะต้องใช้เวลาสัมผัสกับตัวเกมอยู่พักใหญ่ๆ สำหรับผมแล้วช่วงต้นเกมเป็นอะไรที่รู้สึกเชื่องช้าและยืดยาดมาก จนหลายๆ ครั้งพาลเอาเบื่อแล้วหยุดเล่นไปดื้อๆ เหมือนกัน แต่หลังจากคุณผ่านช่วงต้นเกมและเข้าสู่พื้นที่โซนตะวันตกของแผนที่ ความสนุกก็จะเริ่มเพิ่มมากขึ้น ผมยอมรับว่ารู้สึกผิดคาดอยู่เหมือนกันจากที่คิดว่าเกมมันต้องหน้าเบื่อแหงๆ ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าเกมเพลย์ของมันกลับสนุกและผมก็ถูกใจวิธีที่เกมใช้นำเสนอซะอย่างนั้น ถ้าพูดให้เห็นภาพรวมง่ายๆ ก็คือ เกมนี้เป็นเกมส่งของที่ความสนุกจะอยู่ตรงที่คุณจะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อเอาของไปส่งให้ถึงที่ ผ่านความท้าทายต่างๆ ทั้งศัตรูในเกม สภาพอากาศ ภูมิประเทศสุดทรหด โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกมจะค่อยๆ ปลดล็อกมาให้เเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเมื่อคุณทำภารกิจสำเร็จ คุณจะได้ยอด Like ซึ่งเปรียบเสมือน XP เป็นค่าตอบแทน เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ คุณก็จะได้เลื่อนระดับ เปลี่ยนฉายา และได้ความสามารถใหม่ๆ เพิ่มมาเรื่อยๆ https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2786941638 ที่นี้การเล่นเป็นเด็กส่งของมันสนุกยังไง? แน่นอนว่าถ้าเล่นคนเดียววิ่งแบกกล่องไปมาเฉยๆ มันก็คงจะน่าเบื่อแน่ๆ แต่เกมนี้การเล่นจะเป็นแบบ Online ที่โลกของคุณจะเชื่อมต่อกับ Community ของตัวเกม คุณจะมองเห็นสิ่งก่อสร้างที่ผู้อื่นสร้างไว้ สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้ และคุณเองก็สามารถเรียกยอด like จาก Community ของผู้เล่นได้โดยการพยายามช่วยเหลือผู้อื่น เช่น สร้างถนนเพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น สร้างสิ่งก่อสร้างเฉพาะจุดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มาใช้งานก็จะทำให้คุณได้ยอด like (และถ้าคุณไปใช้ของคุณอื่น คุณก็จะเป็นการมอบยอด like ให้ด้วยเช่นกัน) ฟังดูเหมือนการเล่นมันจะแสนธรรมดา แต่เชื่อผมเถอะว่าระบบ Community ในโลกของเกมนี่แหละคือ 1 ในจุดแข็งที่มีส่วนช่วยให้คุณอยากทำภารกิจต่างๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งพอคุณส่งของให้กับสถานที่ใดที่หนึ่งจนได้ระดับ 5 ดาว คุณก็จะได้ของหรือความสามารถใหม่ๆ มาใช้อีก และแน่นอนว่ามันทำให้คุณเข้าถึง lore ในเกมเพิ่มเติมอีกด้วย คัทซีนของเกมนี้คุณภาพสูง ให้อารมณ์เหมือนการดูภาพยนต์ แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องต้องยอมรับว่าวิธีการเล่าและการนำเสนอนั้นค่อนข้างจะ "ติส" แบบโคจิม่า ซึ่งผมยอมรับว่าก็ไม่ค่อยเข้าใจนักในการเล่นรอบแรกและออกจะมึนๆด้วยซ้ำ ทั้งบทที่มีความแปลก (ในทางที่ดี) พล็อตที่เปิดมาให้งุนงงว่าทำไมกรูต้องมาไล่วิ่งส่งของกันทั้งเกมซึ่งกว่าจะเข้าใจพอปะติดปะต่อได้ก็ปาไปครึ่งเกม และยังมีหักมุมในบางจุดให้พอประหลาดใจ เนื้อเรื่องของเกมค่อนข้างมีความเป็นปรัชญาสูงมาก เป็นเรื่องของความตาย ชีวิตหลังความตาย การสูญสิ้น การกำเนิดใหม่ หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านี้อีกถ้าคุณเป็นคนที่เข้าใจเรื่องของปรัชญาชีวิต พูดได้ว่าเนื้อเรื่องคือจุดแข็งที่สุดของเกมและคือแรงผลักดันให้คุณเล่นต่อไปเรื่อยๆ เพราะเกมจะทำให้ผู้เล่นต้องตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ และค้นหามันต่อไป ซึ่งตัวเกมก็มีรายละเอียดในส่วนเนื้อหาที่เพียงพอจะทำให้คุณเข้าใจได้อยู่แล้วเพียงแต่บางอย่างอาจจะไม่ได้เล่ากันตรงๆ แต่จะมีทั้งเป็นคัทซีน บทพูดคุย ผ่านตัวละครที่เราพบเจอ ไปจนถึงอ่าน mail ในเกมและ lore ส่วนต่างๆ ซึ่งการจะเข้าถึงเนื้อหาแบบที่จะปะติดปะต่อเอาเองจนรู้เรื่องอาจจะต้องใช้ทักษะด้านภาษาที่ค่อนข้างแข็งแรงในการทำความเข้าใจรวมถึงอาจจะต้องเข้าใจแนวคิดและปรัชญาต่างๆ คุณถึงจะอินไปกับเรื่องราวได้มากขึ้น ก็อย่างที่เค้าว่ากันเกมนี้มันเหมาะกับกลุ่มคนเล่นที่ค่อนข้างเฉพาะจริงๆ แต่ถ้าคุณเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด มันก็เหมือนภาพยนต์ดีๆ เรื่องนึงเลยล่ะ ที่นี้ก็มาดูกันว่าเกมภาค Director's Cut มันมีอะไรแตกต่างจากเกมหลักบ้าง? ตัวเกมบน PS5 สำหรับส่วนกราฟิกมีการเพิ่มโหมดการแสดงผลใหม่เข้ามา แต่สำหรับ PC จะเป็นการเพิ่มเทคโนโลยีให้รองรับ AMD FidelityFX Super Resolution, NVIDIA DLSS 2.3.7, NVIDIA Image Scaling และเทคโนโลยีล่าสุดจาก GPU ของ Intel อย่าง XeSS ส่วนรายละเอียดใน Graphic option ก็ยังคงเดิมเพราะตัวเกมบน PC นั้นเรียกว่าแสดงผลได้ดีที่สุดอยู่แล้วตั้งแต่ภาคหลัก ดังนั้นส่วนที่แตกต่างไปจากเดิมก็จะเป็นเรื่องของลูกเล่นในเกมเช่น ระบบ Customize กระเป๋าหรือ BB ที่เพิ่มมาให้ผู้เล่นแต่งได้มากขึ้น อุปกรณ์ใหม่ที่ใช้ในการส่งของเช่น เครื่องยิงสัมภาระระยะไกล (ยิงไปแล้วกางเป็นร่มปล่อยลงมาแบบการทิ้งเสบียง) หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติที่คุณสามารถใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแบบ Auto เพิ่มยานพาหนะใหม่ สนามแข่งรถสำหรับทดลองพาหนะ สนามยิงปืนเพื่อทดสอบอาวุธ ทักษะการโจมตีประชิดรูปแบบใหม่อย่างการกระโดดเตะขาคู่ สถานที่ใหม่อย่าง Ruin Factory ที่จะมีเควสและภารกิจพิเศษให้เล่น ของแต่งและ Cosmetic ใหม่ๆ ไปจนถึงมีโหมดพิเศษให้คุณกลับไปสู้กับบอสแต่ละตัวได้อย่างอิสระเมื่อคุณพิชิตเกมได้แล้ว แม้สิ่งที่เพิ่มมาจะไม่ได้เปลี่ยนตัวเกมไปจากเดิมแต่ก็เพิ่มมิติและคอนเทนด์ใหม่ในการเล่น เหมือนการเติมเต็ม Quality of life ในตัวเกมให้ดีขึ้นไปโดยปริยาย (อุปกรณ์เก่าๆ ก็เพิ่มลูกเล่นมากขึ้น เช่น Carrier ที่เอาขึ้น Zip-line ได้) ดังนั้นถ้าคุณไม่เคยเล่นหลักมาก่อน การมาเริ่มที่ภาคนี้เลยก็ค่อนข้างคุ้มค่า ส่วนคนที่เล่นภาคหลักมาแล้ว การมาจ่ายตังอัพเกรดอีกราวๆ 319 เพื่อได้คอนเทนด์ส่วนนี้ก็นับว่าโอเคอยู่เหมือนกันอยู่ดี สำหรับผมนั้น Death Stranding ตัวธรรมดาก็มอบประสบการณ์ในการเล่นที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม และตัว Director's Cut ก็ทำให้ประสบการณ์ที่ดีอยู่แล้วนั้นสมบูรณ์ขึ้นไปอีก กระนั้นมันก็ไม่ได้การันตีว่าถ้าคุณมาเล่นแล้วจะรู้สึกชอบมันแบบที่ผมเป็น เพราะในภาพรวมมันคือเกมที่จำลองการเป็นเด็กส่งของแบบเน้นๆ ซึ่งถูกนำมาโยงเข้ากับเนื้อเรื่องสไตล์ Sci-fi และปรัชญารูปแบบต่างๆ ส่วนของการเล่นแบบแอคชั่นก็พอมีแต่ไม่ได้หวือหวาอะไรนัก ความสนุกจริงๆของมันอยู่ที่เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ระบบการการส่งของ การอัพเกรดสิ่งก่อสร้างและสิ่งของต่างๆ ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ร่วมในหลากหลายโมเมนต์ให้กับผู้เล่น ถ้าหากคุณต้องการความเป็นแอคชั่นสูงๆ ต้องการความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่จัดจ้านตั้งแต่เริ่ม และมักจะงงงวยกับวิธีการเล่าเรื่องที่ต้องจับต้นชนปลายเอาเอง เกมนี้มันอาจจะน่าเบื่อและไม่ใช่สำหรับคุณจริงๆ กระนั้นถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่สนุกกับการมองดู Progression ต่างๆ ผ่านการกระทำทุกอย่างที่คุณทำได้และโอเคกับมัน ไม่มีปัญหากับการเล่าเรื่องที่ต้องใช้การปะติดปะต่อเอาเองทั้งจากการดูคัทซีนและอ่าน lore หรือต้องการเล่นเกมที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เกมนี้ก็อาจจะ "คลิก" กับคุณก็ได้ ด้วยความเฉพาะตัวของมันนี่เองจึงทำให้เกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมที่ "ต้องเล่น" แต่ก็ยังเป็นเกมที่ "ต้องลอง" อยู่ดี เพราะถ้าคุณเข้าถึงสิ่งที่มันนำเสนอ เกมนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณแน่นอน ------------------------------------------------ ++ เกมเพลย์อันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครที่ขับเคลื่อนความน่าสนใจด้วยเนื้อเรื่องและ Progression ของตัวเกม ระบบ Community ที่ผสานเข้าไปในตัวเกมแบบอัตโนมัติทำให้การเล่นมีความน่าสนใจมากขึ้น Quality of life ในส่วนคอนเทนด์ที่ทำให้เกมสมบูรณ์มากกว่าเดิม +/- สำหรับคนที่เล่นตัว Original มา แน่นอนว่ากว่า 80% ของเกมมันก็ยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละ คุณอาจจะรู้สึกว่ามันเหมือนเอาเกมเดิมมาเปลี่ยนชุดแล้วขายใหม่ ขณะเดียวกันถ้าคุณชอบภาคเดิมอยู่แล้วคุณก็น่าจะรู้สึกยินดีกับสิ่งที่เพิ่มมาใหม่ด้วยเช่นกัน - ราคาเต็มที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนักเมื่อเทียบกับอายุของเกมที่ออกมาหลายปีและสำหรับคนที่มีเกมหลักอยู่แล้ว
3 votes funny

อีกหนึ่งเกมคุณภาพซึ่งเปรียบเสมือนลายเซ็นของ'โคจิม่า' ที่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน

*หมายเหตุ - ผมเล่นภาคหลักจน 100% ไปแล้ว เกมเพลย์อ้างอิงตัว Original ในขณะที่คอนเทนด์ใหม่ซึ่งเพิ่มมาอ้างอิงเวอร์ชั่น PS5 นะครับ ** ถ้าคุณเล่นตัว Original แล้วต้องการโอนเซฟมาเล่นต่อ ให้เข้าไปในเกม (Original) เลือกเมนูส่วน Cuff link จะมีหัวข้อให้ Export Save จากนั้นเข้าภาค Director's cut เลือกโหลดเกมได้เลยตามปกติ *** สำหรับสายเก็บ Achievement ถ้าคุณเก็บตัวหลักครบหมด พอมาโหลดเข้าตัวภาคนี้ Achievement จะปลดให้คุณ 59/63 คุณแค่ต้องมาทำเพิ่มราวๆ 3 อย่างซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับการสร้างสิ่งก่อสร้างและของเล่นใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาให้ครบ https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2786929562 Death Stranding เป็นเกมที่มี "เอกลักษณ์" เฉพาะตัวที่สูงมาก จนบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเกมที่ค่อนข้างแปลก ซึ่งก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันคือผลงานของ "โคจิม่า" ที่ชอบรังสรรค์ผลงานเกมด้วยไอเดียที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ซึ่งเกมนี้ก็เปรียบเสมือนลายเซ็นเฉพาะตัวของเขาอย่างชัดเจน แต่เมื่อมันเป็นเกมแน่นอนว่าความเฉพาะตัวที่ค่อนข้างจะสูงของเกมนี้และด้วยแนวเกมที่แทบจะเรียกว่า "เป็นแนวใหม่" ทำให้ผู้เล่นที่จะเข้าถึงมันนั้นถูกจำกัดด้วยลักษณะของสิ่งที่เกมนำเสนอตัวเอง (แน่นอนว่ามันเป็นความติสของโคจิม่าก็ส่วนหนึ่ง) ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่า Death Stranding อาจจะไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน แต่ถ้ามันใช่สำหรับคุณ ผมรับรองว่าคุณจะวางมันไม่ลงเลยทีเดียว แต่กว่าจะรู้ว่าเกมนี้มันใช่สำหรับคุณมั้ย หากคุณไม่ได้มีพลังศรัทธาในโคจิม่าเลยแบบผม มันอาจจะต้องใช้เวลาสัมผัสกับตัวเกมอยู่พักใหญ่ๆ สำหรับผมแล้วช่วงต้นเกมเป็นอะไรที่รู้สึกเชื่องช้าและยืดยาดมาก จนหลายๆ ครั้งพาลเอาเบื่อแล้วหยุดเล่นไปดื้อๆ เหมือนกัน แต่หลังจากคุณผ่านช่วงต้นเกมและเข้าสู่พื้นที่โซนตะวันตกของแผนที่ ความสนุกก็จะเริ่มเพิ่มมากขึ้น ผมยอมรับว่ารู้สึกผิดคาดอยู่เหมือนกันจากที่คิดว่าเกมมันต้องหน้าเบื่อแหงๆ ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าเกมเพลย์ของมันกลับสนุกและผมก็ถูกใจวิธีที่เกมใช้นำเสนอซะอย่างนั้น ถ้าพูดให้เห็นภาพรวมง่ายๆ ก็คือ เกมนี้เป็นเกมส่งของที่ความสนุกจะอยู่ตรงที่คุณจะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อเอาของไปส่งให้ถึงที่ ผ่านความท้าทายต่างๆ ทั้งศัตรูในเกม สภาพอากาศ ภูมิประเทศสุดทรหด โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกมจะค่อยๆ ปลดล็อกมาให้เเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเมื่อคุณทำภารกิจสำเร็จ คุณจะได้ยอด Like ซึ่งเปรียบเสมือน XP เป็นค่าตอบแทน เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ คุณก็จะได้เลื่อนระดับ เปลี่ยนฉายา และได้ความสามารถใหม่ๆ เพิ่มมาเรื่อยๆ https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2786941638 ที่นี้การเล่นเป็นเด็กส่งของมันสนุกยังไง? แน่นอนว่าถ้าเล่นคนเดียววิ่งแบกกล่องไปมาเฉยๆ มันก็คงจะน่าเบื่อแน่ๆ แต่เกมนี้การเล่นจะเป็นแบบ Online ที่โลกของคุณจะเชื่อมต่อกับ Community ของตัวเกม คุณจะมองเห็นสิ่งก่อสร้างที่ผู้อื่นสร้างไว้ สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้ และคุณเองก็สามารถเรียกยอด like จาก Community ของผู้เล่นได้โดยการพยายามช่วยเหลือผู้อื่น เช่น สร้างถนนเพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น สร้างสิ่งก่อสร้างเฉพาะจุดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มาใช้งานก็จะทำให้คุณได้ยอด like (และถ้าคุณไปใช้ของคุณอื่น คุณก็จะเป็นการมอบยอด like ให้ด้วยเช่นกัน) ฟังดูเหมือนการเล่นมันจะแสนธรรมดา แต่เชื่อผมเถอะว่าระบบ Community ในโลกของเกมนี่แหละคือ 1 ในจุดแข็งที่มีส่วนช่วยให้คุณอยากทำภารกิจต่างๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งพอคุณส่งของให้กับสถานที่ใดที่หนึ่งจนได้ระดับ 5 ดาว คุณก็จะได้ของหรือความสามารถใหม่ๆ มาใช้อีก และแน่นอนว่ามันทำให้คุณเข้าถึง lore ในเกมเพิ่มเติมอีกด้วย คัทซีนของเกมนี้คุณภาพสูง ให้อารมณ์เหมือนการดูภาพยนต์ แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องต้องยอมรับว่าวิธีการเล่าและการนำเสนอนั้นค่อนข้างจะ "ติส" แบบโคจิม่า ซึ่งผมยอมรับว่าก็ไม่ค่อยเข้าใจนักในการเล่นรอบแรกและออกจะมึนๆด้วยซ้ำ ทั้งบทที่มีความแปลก (ในทางที่ดี) พล็อตที่เปิดมาให้งุนงงว่าทำไมกรูต้องมาไล่วิ่งส่งของกันทั้งเกมซึ่งกว่าจะเข้าใจพอปะติดปะต่อได้ก็ปาไปครึ่งเกม และยังมีหักมุมในบางจุดให้พอประหลาดใจ เนื้อเรื่องของเกมค่อนข้างมีความเป็นปรัชญาสูงมาก เป็นเรื่องของความตาย ชีวิตหลังความตาย การสูญสิ้น การกำเนิดใหม่ หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านี้อีกถ้าคุณเป็นคนที่เข้าใจเรื่องของปรัชญาชีวิต พูดได้ว่าเนื้อเรื่องคือจุดแข็งที่สุดของเกมและคือแรงผลักดันให้คุณเล่นต่อไปเรื่อยๆ เพราะเกมจะทำให้ผู้เล่นต้องตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ และค้นหามันต่อไป ซึ่งตัวเกมก็มีรายละเอียดในส่วนเนื้อหาที่เพียงพอจะทำให้คุณเข้าใจได้อยู่แล้วเพียงแต่บางอย่างอาจจะไม่ได้เล่ากันตรงๆ แต่จะมีทั้งเป็นคัทซีน บทพูดคุย ผ่านตัวละครที่เราพบเจอ ไปจนถึงอ่าน mail ในเกมและ lore ส่วนต่างๆ ซึ่งการจะเข้าถึงเนื้อหาแบบที่จะปะติดปะต่อเอาเองจนรู้เรื่องอาจจะต้องใช้ทักษะด้านภาษาที่ค่อนข้างแข็งแรงในการทำความเข้าใจรวมถึงอาจจะต้องเข้าใจแนวคิดและปรัชญาต่างๆ คุณถึงจะอินไปกับเรื่องราวได้มากขึ้น ก็อย่างที่เค้าว่ากันเกมนี้มันเหมาะกับกลุ่มคนเล่นที่ค่อนข้างเฉพาะจริงๆ แต่ถ้าคุณเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด มันก็เหมือนภาพยนต์ดีๆ เรื่องนึงเลยล่ะ ที่นี้ก็มาดูกันว่าเกมภาค Director's Cut มันมีอะไรแตกต่างจากเกมหลักบ้าง? ตัวเกมบน PS5 สำหรับส่วนกราฟิกมีการเพิ่มโหมดการแสดงผลใหม่เข้ามา แต่สำหรับ PC จะเป็นการเพิ่มเทคโนโลยีให้รองรับ AMD FidelityFX Super Resolution, NVIDIA DLSS 2.3.7, NVIDIA Image Scaling และเทคโนโลยีล่าสุดจาก GPU ของ Intel อย่าง XeSS ส่วนรายละเอียดใน Graphic option ก็ยังคงเดิมเพราะตัวเกมบน PC นั้นเรียกว่าแสดงผลได้ดีที่สุดอยู่แล้วตั้งแต่ภาคหลัก ดังนั้นส่วนที่แตกต่างไปจากเดิมก็จะเป็นเรื่องของลูกเล่นในเกมเช่น ระบบ Customize กระเป๋าหรือ BB ที่เพิ่มมาให้ผู้เล่นแต่งได้มากขึ้น อุปกรณ์ใหม่ที่ใช้ในการส่งของเช่น เครื่องยิงสัมภาระระยะไกล (ยิงไปแล้วกางเป็นร่มปล่อยลงมาแบบการทิ้งเสบียง) หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติที่คุณสามารถใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแบบ Auto เพิ่มยานพาหนะใหม่ สนามแข่งรถสำหรับทดลองพาหนะ สนามยิงปืนเพื่อทดสอบอาวุธ ทักษะการโจมตีประชิดรูปแบบใหม่อย่างการกระโดดเตะขาคู่ สถานที่ใหม่อย่าง Ruin Factory ที่จะมีเควสและภารกิจพิเศษให้เล่น ของแต่งและ Cosmetic ใหม่ๆ ไปจนถึงมีโหมดพิเศษให้คุณกลับไปสู้กับบอสแต่ละตัวได้อย่างอิสระเมื่อคุณพิชิตเกมได้แล้ว แม้สิ่งที่เพิ่มมาจะไม่ได้เปลี่ยนตัวเกมไปจากเดิมแต่ก็เพิ่มมิติและคอนเทนด์ใหม่ในการเล่น เหมือนการเติมเต็ม Quality of life ในตัวเกมให้ดีขึ้นไปโดยปริยาย (อุปกรณ์เก่าๆ ก็เพิ่มลูกเล่นมากขึ้น เช่น Carrier ที่เอาขึ้น Zip-line ได้) ดังนั้นถ้าคุณไม่เคยเล่นหลักมาก่อน การมาเริ่มที่ภาคนี้เลยก็ค่อนข้างคุ้มค่า ส่วนคนที่เล่นภาคหลักมาแล้ว การมาจ่ายตังอัพเกรดอีกราวๆ 319 เพื่อได้คอนเทนด์ส่วนนี้ก็นับว่าโอเคอยู่เหมือนกันอยู่ดี สำหรับผมนั้น Death Stranding ตัวธรรมดาก็มอบประสบการณ์ในการเล่นที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม และตัว Director's Cut ก็ทำให้ประสบการณ์ที่ดีอยู่แล้วนั้นสมบูรณ์ขึ้นไปอีก กระนั้นมันก็ไม่ได้การันตีว่าถ้าคุณมาเล่นแล้วจะรู้สึกชอบมันแบบที่ผมเป็น เพราะในภาพรวมมันคือเกมที่จำลองการเป็นเด็กส่งของแบบเน้นๆ ซึ่งถูกนำมาโยงเข้ากับเนื้อเรื่องสไตล์ Sci-fi และปรัชญารูปแบบต่างๆ ส่วนของการเล่นแบบแอคชั่นก็พอมีแต่ไม่ได้หวือหวาอะไรนัก ความสนุกจริงๆของมันอยู่ที่เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ระบบการการส่งของ การอัพเกรดสิ่งก่อสร้างและสิ่งของต่างๆ ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ร่วมในหลากหลายโมเมนต์ให้กับผู้เล่น ถ้าหากคุณต้องการความเป็นแอคชั่นสูงๆ ต้องการความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่จัดจ้านตั้งแต่เริ่ม และมักจะงงงวยกับวิธีการเล่าเรื่องที่ต้องจับต้นชนปลายเอาเอง เกมนี้มันอาจจะน่าเบื่อและไม่ใช่สำหรับคุณจริงๆ กระนั้นถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่สนุกกับการมองดู Progression ต่างๆ ผ่านการกระทำทุกอย่างที่คุณทำได้และโอเคกับมัน ไม่มีปัญหากับการเล่าเรื่องที่ต้องใช้การปะติดปะต่อเอาเองทั้งจากการดูคัทซีนและอ่าน lore หรือต้องการเล่นเกมที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เกมนี้ก็อาจจะ "คลิก" กับคุณก็ได้ ด้วยความเฉพาะตัวของมันนี่เองจึงทำให้เกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมที่ "ต้องเล่น" แต่ก็ยังเป็นเกมที่ "ต้องลอง" อยู่ดี เพราะถ้าคุณเข้าถึงสิ่งที่มันนำเสนอ เกมนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณแน่นอน ------------------------------------------------ ++ เกมเพลย์อันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครที่ขับเคลื่อนความน่าสนใจด้วยเนื้อเรื่องและ Progression ของตัวเกม ระบบ Community ที่ผสานเข้าไปในตัวเกมแบบอัตโนมัติทำให้การเล่นมีความน่าสนใจมากขึ้น Quality of life ในส่วนคอนเทนด์ที่ทำให้เกมสมบูรณ์มากกว่าเดิม +/- สำหรับคนที่เล่นตัว Original มา แน่นอนว่ากว่า 80% ของเกมมันก็ยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละ คุณอาจจะรู้สึกว่ามันเหมือนเอาเกมเดิมมาเปลี่ยนชุดแล้วขายใหม่ ขณะเดียวกันถ้าคุณชอบภาคเดิมอยู่แล้วคุณก็น่าจะรู้สึกยินดีกับสิ่งที่เพิ่มมาใหม่ด้วยเช่นกัน - ราคาเต็มที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนักเมื่อเทียบกับอายุของเกมที่ออกมาหลายปีและสำหรับคนที่มีเกมหลักอยู่แล้ว
3 votes funny
เกมคุณภาพสุดๆครับ - เพลงดี - บรรยากาศดี - เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
1 votes funny
Hideo Kojima/10
1 votes funny

Top 100

  • Black Myth: Wukong
  • Lethal Company
  • Call of Duty: Modern Warfare II
  • EA SPORTS FIFA 23
  • Palworld
  • Lost Ark
  • Battlefield 2042
  • 鬼谷八荒 Tale of Immortal
  • Sons Of The Forest
  • ELDEN RING
  • Halo Infinite
  • Battlefield V
  • The Sims 4
  • NARAKA: BLADEPOINT
  • Red Dead Redemption 2
  • Apex Legends
  • Fall Guys: Ultimate Knockout
  • Cyberpunk 2077
  • NBA 2K20
  • Baldur's Gate 3
  • Destiny 2
  • New World: Aeternum
  • Hogwarts Legacy
  • Among Us
  • Grand Theft Auto IV: Complete Edition
  • Last Epoch
  • Valheim
  • Sekiro: Shadows Die Twice - GOTY Edition
  • Ring of Elysium
  • Phasmophobia
  • Raft
  • Risk of Rain 2
  • Hunt: Showdown 1896
  • Monster Hunter: World
  • PUBG: BATTLEGROUNDS
  • HELLDIVERS 2
  • World of Warships
  • Black Squad
  • Life is Strange 2
  • Satisfactory
  • Human Fall Flat
  • World of Tanks Blitz
  • Paladins
  • VRChat
  • Z1 Battle Royale
  • Wallpaper Engine
  • Street Warriors Online
  • Stardew Valley
  • SMITE
  • Dead by Daylight
  • Fallout 4
  • Hollow Knight
  • Tom Clancy's Rainbow Six Siege
  • ARK: Survival Evolved
  • Don't Starve Together
  • Geometry Dash
  • Unturned
  • Trove
  • Robocraft
  • The Witcher 3: Wild Hunt
  • Brawlhalla
  • Sid Meier’s Civilization VI
  • No Man's Sky
  • Serena
  • Grand Theft Auto V
  • Mount & Blade II: Bannerlord
  • Cities: Skylines
  • Rocket League
  • Rust
  • 7 Days to Die
  • The Binding of Isaac: Rebirth
  • The Forest
  • Dying Light
  • Path of Exile
  • War Thunder
  • Warframe
  • Heroes & Generals
  • Euro Truck Simulator 2
  • DayZ
  • Grim Dawn
  • PAYDAY 2
  • Castle Crashers
  • Project Zomboid
  • Arma 3
  • Terraria
  • The Tiny Bang Story
  • Sid Meier's Civilization V
  • Garry's Mod
  • Counter-Strike: Global Offensive
  • Portal 2
  • Dota 2
  • Left 4 Dead 2
  • Team Fortress 2
  • Half-Life 2: Lost Coast
  • Half-Life 2: Deathmatch
  • Counter-Strike: Source
  • Half-Life 2
  • Half-Life
  • Ricochet
  • Counter-Strike

Specials

  • Counter-Strike 2
  • PEAK
  • Clair Obscur: Expedition 33
  • Dune: Awakening
  • Cyberpunk 2077
  • Dead by Daylight
  • ELDEN RING
  • Schedule I
  • Baldur's Gate 3
  • Date Everything!
  • ELDEN RING NIGHTREIGN
  • R.E.P.O.
  • REMATCH
  • Warframe
  • Red Dead Redemption 2
  • Ready or Not
  • HELLDIVERS™ 2
  • War Thunder
  • DELTARUNE
  • Warhammer 40,000: Space Marine 2
  • STAR WARS™ Battlefront™ II
  • Cyberpunk 2077: Phantom Liberty
  • The Elder Scrolls IV: Oblivion Remastered
  • Destiny 2
  • Warhammer 40,000: Darktide
  • DEATH STRANDING DIRECTOR'S CUT
  • The Sims™ 4
  • Tom Clancy's Rainbow Six® Siege X
  • Stellar Blade™
  • Lies of P

Top Sellers

  • Counter-Strike 2
  • PEAK
  • Cyberpunk 2077
  • Clair Obscur: Expedition 33
  • Dead by Daylight
  • Dune: Awakening
  • ELDEN RING
  • Date Everything!
  • Ready or Not
  • Schedule I
  • Baldur's Gate 3
  • Red Dead Redemption 2
  • REMATCH
  • Warframe
  • War Thunder
  • ELDEN RING NIGHTREIGN
  • R.E.P.O.
  • HELLDIVERS™ 2
  • Warhammer 40,000: Space Marine 2
  • Marvel's Spider-Man 2
  • Cyberpunk 2077: Phantom Liberty
  • DEATH STRANDING DIRECTOR'S CUT
  • Warhammer 40,000: Darktide
  • STAR WARS™ Battlefront™ II
  • Persona5: The Phantom X
  • Sons Of The Forest
  • Monster Hunter Wilds
  • Destiny 2
  • Ghost of Tsushima DIRECTOR'S CUT

Featured

  • NEKOPARA After
  • System Shock 2: 25th Anniversary Remaster
  • Project Silverfish
  • Persona5: The Phantom X
  • No-good Streamer Mirai-chan! (Now accepting lewd comments)
  • Umamusume: Pretty Derby
  • V-LOVER!
  • Jerez's Arena Ⅲ
  • Ship, Inc.
  • BitCraft Online
  • Supermarket Simulator
  • Len's Island
  • Kindergarten 3
  • Soulstone Survivors
  • Cast n Chill
  • DELTARUNE
  • Guilty as Sock!
  • Haste
  • Two Point Museum
  • Tiny Glade